ในยุคที่โควิดเข้ามาทำให้หลายๆ คนอาจจะเหนื่อยล้า และ เบื่อหน่ายกับชีวิต ณ ตอนนี้ไปบ้าง เพราะรู้สึกว่า ความหวัง ที่มีกำลังจะหายไป วันนี้ เราอยากมาแนะนำ 3 หนังสร้างแรงบันดาลใจ ที่จะปลุกความหวัง ในการใช้ชีวิตและลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ ขึ้นมาอีกครั้ง! มาดุกันเลยว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
1. The Shawshank Redemption
เป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจที่คลาสสิคมากเร่องหนึ่ง The Shawshank Redemption ถูกสร้างขึ้นในปี 1994 เขียนบทและกำกับการแสดงโดย Frank Darabont อิงจากนิยายของ Stephen King ปี 1982 Rita Hayworth และ Shawshank Redemption ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของนายธนาคาร Andy Dufresne (Tim Robbins) ซึ่งถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในเรือนจำแห่งรัฐ Shawshank ในข้อหาฆาตกรรมภรรยาและคนรักของเธอ แม้ว่าเขาจะอ้างว่าไร้เดียงสาก็ตาม กว่าสองทศวรรษต่อมา เขากลายเป็นสมาชิกที่น่านับถือของชุมชนเรือนจำ แต่เมื่อเขาถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ในอาชญากรรมอื่น แอนดี้ต้องหาวิธีที่จะเปิดเผยผู้กระทำความผิดที่แท้จริงหรือใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุก
2. The Pursuit of Happiness
เป็นเรื่องราวของ Chris Gardner พนักงานขายที่ดิ้นรนที่ต้องเลี้ยงลูกชายคนเดียวหลังจากการเลิกรากับภรรยาของเขา ชีวิตของเขาพลิกผันอย่างคาดไม่ถึงเมื่อเขาได้รับการเสนองานที่บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ซึ่งเขาเก่งในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงและในที่สุดก็กลายเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดในการเป็นหัวหน้าบริษัท แต่ความสำเร็จของการ์ดเนอร์ไม่ได้มาโดยปราศจากการเสียสละ ซึ่งรวมถึงชั่วโมงทำงานที่ยาวนานและมีเวลาอยู่กับลูกชายเพียงเล็กน้อย ในที่สุด ความเครียดในครอบครัวทำให้เขาต้องประเมินสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกครั้ง
3. Forrest Gump
เรื่องราวของชายที่ชื่อ ว่า Forrest Gump ( Tom Hanks ) ผุ้ซึ่งเกิดมาพร้อมกับ IQ ที่ต่ำกว่าเกรฑ์ ทำให้ ผู้คนมองว่าเขา ไม่ฉลาด และแปลกแยก แต่ชีวิตของเขากลับตรงกันข้ามกับที่ผู้คนคิด เพราะเขาสามารถบรรลุเป้าหมายหลายอย่างในชวิต ตั้งแต่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนที่วิ่งเร็วที่สุดคนหนึ่ง , เป็นวีรบุรุษสงคราม, เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวย ไปจนถึงนักวิ่งข้ามประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ จากมุมมอง อันซื่อตรง ไม่ซับซ้อน และ การลงมือทำทันที แบบไม่คิดมาก ของเขา ที่สำคัญที่สุด Forrest ไม่สนใจคำวิพากย์วิจารณ์ ในแง่ลบ แต่นำคำพูดดีๆ มาเป็นกำลังใจ มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตั้งใจ จนสำเร็จ
แน่นอนว่าการดูหนังสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่หนทางเดียวแก้ปัญหาทั้งหมด แต่อย่างน้อย ก็เปรียบเสมือน เชื้อเพลิงแห่ง กำลังใจอีก เฮือกหนึ่ง ที่อาจจะทำให้เรารู้สึกอยากลุกขึ้นสู้กับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่มากขึ้นก็เป็นได้…
เคยไหม เปลี่ยนเก้าอี้ทำงานก็แล้ว แต่ทำไมนั่งทำงานแล้วยังปวดคอและเป็นออฟฟิ
ศซินโดรมอยู่เลย? หากคุณเคยเจอปัญหาเหล่านี้ล่ะก็ อาจเป็นไปได้ว่าท่านั่งของคุณอาจจะไม่เหมาะสม เช่น ทำงานในท่าที่ต้องก้มมองโน๊ตบุ๊คเป็นเวลานาน ดังนั้น ในบทความนี้เราเลยจะมาแนะนำ 3 ร้านขายแท่นรองโน๊ตบุ๊คที่สามารถช่วยแก้ปัญหาปวดคอเวลาทำงานนานๆ ได้
Vgaz
หากพูดถึงร้านอุปกรณ์ Gadget ต่างๆ ร้านแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือร้าน Vgaz เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์เสริมของ Gadgez เลยก็ว่าได้ อย่างแท่นรองโน๊ตบุ๊คก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย แถมยังมีคุณภาพและราคาไม่แพงอีกด้วย
Ikea
รู้หรือไม่ว่าที่ Ikea ก็มีแท่นรองโน๊ตบุ๊คขายเช่นกันนะ! แถมยังไม่ต้องไปเดินเลือกซื้อถึงที่ Ikea ก็สามารถสั่งซื้อได้เช่นกัน เพราะแท่นรองโน๊ตบุ๊คของ Ikea นั้นมีการวางขายออนไลน์ด้วย สะดวกสุดๆ และที่สำคัญก็คือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะ!
Dotlife
Dotlife ก็เป็นอีกร้านที่ไม่ได้ขายเพียงแค่เคสไอโฟนไอแพดเท่านั้น เพราะที่นี่มีแท่นรองโน๊ตบุ๊คให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งแบบที่วางบนตักและวางบนโต๊ะ หลากหลายราคา หลายรุ่น ยิ่งถ้าซื้อเยอะๆ ทางร้านก็มีคูปองส่วนลดให้อยู่บ่อยๆ
ใครที่กำลังมีปัญหาปวดคออยู่อันเนื่องมาจากการทำงานมาก่อน ก็ลองไปใช้แท่นรองโน๊ตบุ๊คตามที่เราได้แนะนำกันไปได้เลย แนะนำว่าให้เลือกแบบที่ปรับระดับได้ เพื่อที่จะได้ปรับให้เหมาะกับความสูงของโต๊ะหรือตัวคุณเองได้…
การออกไปท่องโลกกว้างเพื่อเรียนรู้ชีวิตและสิ่งใหม่ ๆ รอบตัวอาจต้องใช้ทั้งเวลา เงิน กำลังกายและใจที่มากเพียงพอ แต่หากใครอยากย่อส่วนทุกอย่างและทำความเข้าใจโลกกว้างโดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงต่อวัน บอกเลยว่าการเปิด Netflix และค้นหาซีรีส์อย่าง Connected: The Hidden Science of Everything ก็จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจโลกใบใหญ่จากสารพัดสิ่งใกล้ตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมบางตอนยังทำให้ผู้ชมแบบเรา ๆ รู้สึกระวังตัวมากขึ้นกับทุกสิ่งรอบตัวอีกด้วย และซีรีส์นี้จะสนุกแค่ไหน มีอะไรน่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วมาทำความรู้จักซีรีส์เรื่องนี้ไปพร้อมกันได้เลย
รู้จักโลกมากขึ้นใน 6 ตอน
โดยทั่วไปแล้ว ซีรีส์ Netflix ที่เกี่ยวกับโลกนั้นจะพาเราออกจากกรอบเดิม ๆ เพื่อไปตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว จากนั้นจึงท่องไปสู่โลกกว้างใหญ่ แต่สำหรับ Connected: The Hidden Science of Everything แล้ว Latif Nasser จะพาผู้ชมแบบเรา ๆ ทุกคนออกไปรู้จักกับ “ความเชื่อมโยง” ของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราทุกขนาด ตั้งแต่การสอดส่องที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและแบบที่มีมนุษย์ควบคุม พร้อมรู้จักวิธีคิดภาษีที่เริ่มต้นที่การเปิดหนังสือ หรือแม้แต่อุจจาระที่บอกถึงอารมณ์และสภาวะจิตใจของมนุษย์ ไปจนถึงการเฝ้าจับตาดูเม็ดทรายจากซาฮาราที่ลอยปลิวไปอยู่ทุกมุมของโลก
การันตีเนื้อหาและคุณภาพด้วยการเสนอเข้าชิง Emmy Award
เวลาพูดถึงสารคดีที่จะพาทุกคนออกไปสำรวจโลกกว้าง หลายคนอาจรู้สึกถึงความน่าเบื่อจากวิธีเล่าเรื่องแบบเดิม ๆ ที่มาพร้อมกับเสียงชวนหลับ แต่สำหรับ Connected: The Hidden Science of Everything แล้ว สารคดีชิ้นนี้มีวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งไม่เพียงแต่จะหยิบยกประเด็นเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อไปสู่ภาพใหญ่ได้อย่างน่าสนใจเท่านั้น สารคดีเรื่องนี้ยังมาพร้อมกับภาพกราฟิกเข้าใจง่าย อธิบายให้เห็นภาพโดยไม่ต้องจินตนาการเองเพิ่ม ซึ่งเทคนิคการอธิบาย มุมกล้อง และเนื้อเรื่องที่โดดเด่นนี้ทำให้ Connected: The Hidden Science of Everything เป็นอีกหนึ่งผู้เข้าชิงรางวัล News & Documentary Emmy Award for Outstanding Science and Technology Documentary ในปี 2021 เลยทีเดียว
หากใครอยากรู้จักโลกกว้างที่แคบได้อย่างไม่น่าเชื่อนี้ให้มากขึ้น เลิกงานแล้ว หรือเข้าวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อไหร่ อย่าลืมหยิบ Connected: The Hidden Science of Everything มาดูเพื่อใช้เวลากับตัวเอง ครอบครัว และคนที่รักในการทำความรู้จัก “ความเชื่อมโยง” ของทุกสิ่งบนโลกใบนี้กันนะ…
เพราะทุกอย่างในโลกของภาพยนตร์ล้วนมีความหมายที่สร้างขึ้นอย่างตั้งใจ เช่นเดียวกับของประกอบฉากชิ้นอื่น ๆ เครื่องทำกาแฟเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่หลายคนมักมองข้าม แต่สามารถให้ความหมายที่สำคัญมากกว่าที่คิด ซึ่งหนึ่งในบรรดาเครื่องทำกาแฟทุกแบบบนโลก La Pavoni ถือเป็นเครื่องทำกาแฟแบรนด์คลาสสิกจากอิตาลีที่ภาพยนตร์หลากหลายเรื่องได้นำเข้ามาประกอบฉากและสร้างความหมายอยู่เป็นประจำ แล้วทำไมต้องเป็น La Pavoni หรือภาพยนตร์ประเภทใดถึงจะมีเครื่องชงกาแฟสุดคลาสสิกตัวนี้อยู่ในฉากบ้าง เดี๋ยววันนี้จะเล่าให้ฟัง!
La Pavoni คืออะไร?
หากพูดถึงแบรนด์เครื่องทำกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเมื่อไหร่ มั่นใจได้ว่า La Pavoni ต้องเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ติดอยู่ในลิสต์นี้แน่นอน ซึ่งนอกจากจะผลิตเครื่องทำกาแฟเอสเพรสโซ่มาตั้งแต่ปี 1905 และต่อมาในปี 1961 La Pavoni ยังเป็นผู้ให้กำเนิดเครื่องชงกาแฟในบ้านโดยใช้ไฟฟ้าอย่าง La Pavoni : Europiccola ออกมา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทุกคนสามารถดื่มกาแฟ Perfect หรือ Splendid Shot ได้ตั้งแต่ที่บ้าน
หนังแบบไหนถึงมี La Pavoni อยู่ในซีน?
สำหรับในช่วงปี 1960s เป็นต้นมา La Pavoni ก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่ง “ของเล่นใหม่” สำหรับบ้านที่พอมีต้นทุนอย่าง “เวลา” ในการสกัดกาแฟออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งหากเทียบกับ Moka Pot ในสมัยนั้นที่ใช้เวลาน้อยในการสกัดแล้ว La Pavoni ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกาแฟสมัยใหม่ที่มีต้นทุนทั้งตัวเครื่อง พร้อมทั้งมีเวลาในการทำและเวลาในการสัมผัสมิติของกาแฟที่มากกว่า
อย่างไรก็ดี ไม่เพียงแต่ในเรื่องของชนชั้นเท่านั้น La Pavoni ยังมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงถึง “ความเป็นอิตาลี” ที่สอดคล้องเข้ากับ “วัฒนธรรมความเป็นมาเฟีย” ซึ่งมักจะพบเห็นได้จากภาพยนตร์สุดคลาสสิกมากมาย อาทิ “James Bond: Live and Let Die” และ “Godfather III” เป็นต้น
โดยในภาพยนตร์ “James Bond: Live and Let Die” เองก็มีซีนที่พระเอก James Bond ของเราลองใช้เครื่องทำกาแฟอย่าง La Pavoni เพื่อเป็นทั้งการสร้างภาพแทนให้ตัวเองในหลายด้าน เช่น การสร้างความกลมกลืน (Assimilation) เข้าสู่วัฒนธรรมมาเฟียเพื่อแสดงให้เห็นว่า Bond ไม่ได้อยากเชื่อฟัง M ผู้เป็นนายมากเท่าไหร่ อีกทั้งการใช้ La Pavoni ยังแสดงให้เห็นถึงตัวตนของ Bond ที่เป็นหนุ่มที่มากไปด้วยเทสและต้นทุนในเรื่องต่าง ๆ และที่สำคัญ การใช้ La Pavoni ในการชงยังสร้างความเป็นอื่น (Otherness) ให้กับวัฒนธรรมมาเฟียของอิตาลีที่สายลับอังกฤษอย่าง Bond ต้องการจะแทรกแซงเพื่อสืบคดี และสื่อเป็นนัยยะที่ว่า Bond เองก็สามารถรับมือมาเฟียเหล่านี้เหมือนกับการใช้ La Pavoni ในการชงเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าถึงเครื่องทำกาแฟจะเป็นของประกอบฉากเล็ก ๆ แต่ก็มีความหมายที่ซ่อนอยู่มากมายเช่นกัน แล้วคุณล่ะ เห็นความหมายของเครื่องทำกาแฟแบบไหนในภาพยนตร์เรื่องใดบ้าง หากพอมีเวลาก็ลองแวะมาคุยกันดูนะ…
ขอบคุณรูปจาก Killing Eve Twitter
เมื่อพูดถึงซีรีส์ cat and mouse อย่าง Killing Eve ที่เป็นเรื่องราวของนักฆ่าสาวที่ทำงานให้กับองค์กรลับ กับเจ้าหน้าที่ MI6 ที่ติดตามและไล่ล่าอย่างต่อเนื่องนั้น เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ใครๆ ต่างเฝ้ารอกันมาอย่างเนิ่นนาน โดยเฉพาะแฟนๆ ซีรีส์เรื่องนี้ที่รอคอยซีซั่น 4 มาถึง 2 ปีด้วยกัน และในปีนี้ เราก็จะได้รับชมซีซั่น 4 ที่เป็นซีซั่นล่าสุดและซีซั่นสุดท้าย ปิดฉากของซีรีส์ชุดนี้กันอีกด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้เราจะพาทุกคนเข้าสู่โลกนักฆ่าสาวคนนี้กัน
ใน Killing Eve season 4 อาจจะไม่ได้พูดถึงพล็อตอะไรมากมาย เพราะจากหลายๆ สำนักก็จะบอกแค่ว่า อีฟและวิลลาแนลล์ต่างเดินจากกันในตอนท้ายของซีซั่น 3 พวกเขาแยกกันไปคนละเส้นทางเดิน และต่างคนก็ต่างหาความหมายและความสำคัญของกันและกันอยู่โดยตลอด แต่สำหรับ The Twelve องค์กรลับที่เป็นเจ้านายของวิลลาแนลล์ ก็ใช่ว่าจะหยุดอยู่แค่นั้น และแคโรลิน หัวหน้าฝั่งรัสเซียแห่ง MI6 ก็ยังคงตามสืบเรื่องราวขององค์กรนี้อยู่ และนั่นก็ทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง วุ่นวาย และเต็มไปด้วยอารมณ์อีกด้วย
สำหรับตัวของวิลลาแนลล์ เราจะเห็นมาตลอดว่าเธอกำลังค้นหาความหมายของชีวิต และเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะคำพูดฝังใจที่แม่บอกเธอว่าเธอเป็นมอนสเตอร์ และสิ่งที่เฮเลน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ The Twelve ย้ำเตือนเธอว่าเป็น beautiful monster ก็ยิ่งทำให้เธอหันหน้าเข้าหาศาสนา ให้พระเจ้าคอยช่วย และพยายามทำตัวเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป แต่จากเทรลเลอร์ก็ดูแล้วว่าเธอยังไม่สามารถละทิ้งสัญชาตญาณเก่าของเธอไปได้
Killing Eve ซีซั่น 4 ฉายทุกวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ทาง BBC America/AMC+ หรือทุกเช้าวันจันทร์ ตามเวลาไทย…
สำหรับหลายคนที่กำลังประสบปัญหาฟันไม่เป็นใจ อยากจะมีฟันที่ขาวเป๊ะและเรียงสวยทุกซี่เหมือนอย่างในโฆษณา น่าจะกำลังสนใจการทำวีเนียร์กันอย่างแน่นอน ซึ่งหลายคนก็อาจจะเคยได้ยินกันมาว่าการทำวีเนียร์นั้นมีด้วยกันสองประเภท คือวีเนียร์แบบคอมโพสิตและอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจก็คือวีเนียร์แบบเซรามิกที่ราคาสูงแต่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและทนทานที่มากกว่า
วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับวีเนียร์ทั้งสองประเภทเพื่อไขข้อข้องใจว่าวีเนียร์แบบคอมโพสิตนั้นเป็นอย่างไร และการทำวีเนียร์แบบเซรามิกนั้นราคาสูงจริงไหม คุ้มค่าหรือเปล่า มาดูกันเลย!
วีเนียร์ คืออะไร
การทำวีเนียร์ คือการนำวัสดุที่มีเนื้อสัมผัสและสีคล้ายคลึงกับฟันจริงมาแปะลงที่หน้าฟันของเรา โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและปัญหาฟันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสีฟันที่ยากจะแก้ไข ปัญหาฟันบิ่นหรือฟันไม่เท่ากันที่ทำให้ไม่มั่นใจเวลายิ้ม ทำให้มีรอยยิ้มที่ดูสวยเป๊ะและฟันขาวสวยได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะเฉดไหนก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ
ซึ่งการทำวีเนียร์แบบเซรามิกนั้นหลายคนคิดว่าราคาอาจจะสูงเกินไป แต่เรามาดูข้อแตกต่างและข้อดีของทั้งสองประเภทกันดีกว่า เพื่อให้เปรียบเทียบและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ความแตกต่างของวีเนียร์ทั้งสองประเภท
วีเนียร์แบบคอมโพสิต
วีเนียร์แบบเซรามิก
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นว่าวีเนียร์แบบเซรามิกถึงจะราคาสูงแต่ก็มีความแข็งแรง ทนทาน และคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้วีเนียร์เปลี่ยนสีไปตามเครื่องดื่มและอาหารอีกด้วย หากใครสนใจขอแนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อทำการประเมินการดูแลรักษาฟันให้ตรงกับปัญหาฟันของเราที่สุด…
ยังจำฉากสุดท้ายของภาคที่แล้วได้หรือไม่ ที่น้องสไปดี้ของเราโดนเปิดโปงตัวจริงว่าเป็นใคร แถมยังโดนใส่ร้ายอีกต่างหาก เรื่องราวของ Spiderman: No Way Home เริ่มต้นที่ความวุ่นวายนี้นั่นเอง
ใครที่ได้ดูภาคนี้ก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นภาคหัวเลี้ยวหัวต่อของพ่อหนุ่มปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ที่ไม่ว่าจะเป็น 2 ภาคที่เป็นภาคแยกของตัวเอง หรือเป็นภาคที่รวมตัวกับเหล่า Avenger พ่อหนุ่มน้อยสไปดี้ก็คงความน่ารักมุ้งมิ้ง และเป็นฮีโร่ที่เป็นเพื่อนบ้านที่น่ารัก น่าหยิก ได้ตลอดเวลา แต่ความกดดันทางสังคม และสื่อต่างๆ รวมถึงเหล่าวายร้ายที่มารวมตัวกัน จะทำให้ความสดใสจางหายไปหรือไม่ เราต้องมาติดตามกัน
(เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
ขอบคุณภาพจาก Marvel Entertainment
เมื่อตัวตนของสไปเดอร์แมนเปิดเผยและถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนฆ่ามิสเทริโอ ซึ่งมีทั้งคนเชื่อและคนไม่เชื่อ แต่เชื่อเถอะว่ามีคนเชื่อมากกว่า ทำให้ทั้งสไปเดอร์แมนและเพื่อนๆ โดนผลกระทบ ทั้งโดนตามติดชีวิตและโดนด่าว่าเสียๆ หายๆ เรื่องราวเริ่มป่วนเมื่อปีเตอร์ได้ไปขอให้ดอกเตอร์สเตรนจ์ ช่วยลบความทรงจำ แต่ความป่วนของเจ้าสไปดี้ ทำให้คาถาเกิดความผิดพลาด ทำให้ทุกคนที่รู้ว่าตัวจริงของสไปเดอร์แมนคือใครของทุกจักรวาลมารวมตัวกัน
อาจจะกล่าวได้ว่าภาคนี้เป็นภาคที่ถูกใจแฟนบอยและแฟนเกิร์ลมาก เพราะเป็นการรวมตัวร้ายสุดพีคของสไปเดอร์แมนของทุกภาค ทุกจักรวาลมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น กรีน ก็อบลิน, แซนด์แมน, เดอะลิซาร์ด, และจอมวายร้ายอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญยังรวมเอาทุกปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ตั้งแต่สร้างสไปเดอร์แมนมาอีกด้วย
ภาคนี้ถือว่าเป็นภาคที่หนักหนาสำหรับพ่อหนุ่มสไปเดอร์แมน เวอร์ชันของทอม ฮอลแลนด์ แต่เห็นหน้าใสๆ อย่างนี้ เอาคนดูเสียอยู่หมัด แม่ยกพ่อยกเสียน้ำตาให้เป็นลิตร ใครไม่อยากพลาดดูในโรงภาพยนตร์แบบเต็มๆ ต้องรีบเลย …
“โซฟา” ถือเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกที่สำคัญในบ้าน ที่หลายคนมักจะเลือกชิ้นที่ถูกใจทั้งคุณและคนในครอบครัวมากที่สุด เนื่องจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยสร้างความพักผ่อน หย่อนกาย หย่อนใจ ให้กับทุกคนได้ รวมไปถึงแขกผู้มาเยือน ที่ก็จะมานั่งที่จุดนี้ซะส่วนใหญ่ ถ้าอย่างงั้นแล้ว ไม่เลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ให้ดีก็คงจะไม่ได้! ซึ่งหนึ่งในประเภทของโซฟาที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ก็คงหนีไม่พ้น “โซฟาหนัง” แต่จะมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง? วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกคุณผู้อ่านทุกท่านที่กำลังมองหาของตกแต่งบ้านชิ้นนี้กัน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของโซฟาหนัง
ข้อดีข้อนี้ถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนกับโซฟาด้วยจำนวนเงินที่มากเท่าไรนัก เพราะหากคำนึงถึงเรื่องสภาพการใช้งานที่ก็อาจจะเสื่อมไป ซึ่งเรามองว่าหากคุณกำลังมองหาราคาที่จับต้องได้ โซฟาประเภทนี้น่าจะช่วยตอบโจทย์เรื่องงบประมาณของคุณได้เป็นอย่างมาก
เนื่องจากหนังเทียมทำมาจากพีวีซี ที่คุณเองก็สามารถเลือกโทนหรือเฉดสีได้ตามใจชอบ เพื่อตอบโจทย์ความคุมมโทนให้กับตัวบ้านคุณอีกด้วย
หนังเทียมสามารถทำคาวมสะอาดโดยใช้ผ้าเช็ดได้เลย หรือจะเป็นคราบสิ่งสกปรกไหน ก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของโซฟาหนังนั้นก็คือ ความทนทานต่อรอยขูดขีด ซึ่งไม่ว่าจะโดนรอยไหน ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยได้ยาก
ข้อเสียของโซฟาหนัง
หากเวลาผ่านไปนาน หรือเมื่อโซฟาได้รับความร้อน หรืออากาศที่แห้งอบอ้าว อาจจะทำให้พื้นผิวของโซฟาแข็งกระด้าง หรือกรอบแตกได้ง่าย
โซฟาประเภทนี้มีขั้นตอนการซ่อมแซมรักษาที่ค่อนข้างยาก โดยหากเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่มีราคาสูงพอๆ กับการซื้ออันใหม่อีกด้วย
ความทนทานของโซฟาประเภทนี้อาจจะสู้โซฟาชนิดอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว โซฟาหนังเทียมจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อดี-ข้อเสียของโซฟาหนัง ที่เรานำมาเทียบให้คุณเห็นชัดๆ โดยหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังมองหาโซฟาตัวใหม่เพื่อตกแต่งบ้านไม่มากก็น้อย และอย่าลืมเลือกประเภทโซฟาที่คุณถูกใจกันด้วยล่ะ เพื่อจะได้ใช้งานได้นานๆ และไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ หรือเสียเงินค่าซ่อมอยู่บ่อยๆ อีกด้วย
…
Stay on Top of Current Events At SharpMobileth, we understand the importance of reliable news. Our dedicated team of journalists and editors work tirelessly to provide you with accurate and up-to-date information you can trust.
Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. This category only includes cookies that ensures basic functionalities and security features of the website. These cookies do not store any personal information.
Any cookies that may not be particularly necessary for the website to function and is used specifically to collect user personal data via analytics, ads, other embedded contents are termed as non-necessary cookies. It is mandatory to procure user consent prior to running these cookies on your website.